รีวิว 3D Printer Original Prusa i3 MK2 สุดยอดเครื่องพิมพ์ 3 มิติสำหรับปี 2017

สำหรับบทความในครั้งนี้ ผมว่าหลายๆคนรออยู่ เพราะอาจจมีความสงสัยเหมือนที่ผมสงสัย จนต้องสั่งมาลองดูกันหน่อย ก่อนที่จะเข้าไปอ่านรีวิวเครื่อง ผมขอเกริ่นนิดนึง เกี่ยวกับประวัติของเครื่องพิมพ์ 3D Printer ตัวนี้ซักหน่อย เครื่องตัวนี่นั้นเป็นของ Mr. Josef Prusa ซึ่งเป็นคนแรกที่คิดค้น 3D Printer ประเภทนี้ จนหลายๆคนเรียกชื่อเครื่องนี้ตามนามสกุลเขา นั่นก็คือ Prusa เครื่องพิมพ์ 3 มิติ Prusa นั้นถือว่าเป็นเครื่องประเภท Reprap และเป็น Opensoruce ที่ Mr. Josef ได้แจกจ่าย วิธีการสร้างเครื่องและ Firmware ที่ให้เครื่องทำงาน ซึ่งทำให้เครื่องตัวนี้ ดังมากๆ เพราะว่าทำง่าย ชิ้นส่วนไม่ซับซ้อน อะไหล่ที่ใช้ก็เป็นแบบ้านๆ หาซื้อได้ง่าย ถ้าเป็นบ้านเรา ก็ไปเดินบ้านหม้อ รับรองว่าได้ของครบ ส่วนชิ้นส่วนที่มาจากการพิมพ์นั้น ตัว Josef Prusa ก็ได้แจกไฟล์โมเดล 3 มิติ ถ้าใครมีเครื่องพิมพ์อยู่แล้ว ก็พิมพ์ขึ้นมาได้ ส่วนใครไม่มี 3D Printer ก็ไปจ้างเขาพิมพ์

เจ้าของเครื่อง Original Prusa ชื่อ Josef Prusa

เครื่องพิมพ์ 3D Printer Original Prusa i3 Mk2 นี้ดังแค่ไหน?

เครื่องตัวนี้ัดังมากๆ จนถ้าสั่งของตอนนี้ก็ต้องรอถึง 7 อาทิตย์ถึงจะสามารถส่งของได้ สาเหตุก็เพราะว่า ชิ้นส่วนที่ใช้ประกอบเครื่องนี้้นั้น เป็นชิ้นส่วนที่พิมพ์ ขึ้นมาจากเครื่องพิมพ์ Prusa เรียกได้ว่า ตัวมันเองพิมพ์ชิ้นส่วนตัวของม้นเองขึ้นมา ซึ่งตอนนี้เครื่องที่ใช้พิมพ์ชิ้นส่วนนั้น ทาง Josef เองได้ออกมาบอกว่า เขามีเครื่องทั้งหมดมากกว่า 180 ตัว เพื่อใช้พิมพ์ชิ้นส่วนอย่างเดียว เรียกได้ว่าเป็น Printing Farm ของแท้เลย ซึ่งตรงนี้ทำให้ผมคิดได้ว่า ถ้าเอาเครื่องพิมพ์ 3 มิติมารวมกันซัก 10-20 ตัว ก็สามารถเปิดเป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วนได้แล้ว โดยไม่ต้องไปซื้อเครื่องฉีดพลาสติก แถมไม่ต้องและลงทุนในเรื่องของการทำโมลด์ฉีดพลาสติก ที่มีราคาแพงอีกด้วย อยากเปลี่ยนแบบเมื่อไร ก็ง่าย ไม่ต้องเสียเวลามาตั้งเครื่องใหม่ อันนี้แหละครับที่ผมคิดว่าจะเป้นอนาคต ที่เรียกว่า Mirco Factoring

เครื่องขายดีมากมีคนจ่ายเงินผ่าน Paypal เยอะจน Paypal ต้องตรวจสอบก่อน เพราะกลัวว่าจะเป็นการฟอกเงิน

อีกข่าวหนึ่งที่ทำให้เครื่องพิมพ์ Prusa นั้นเป็นกระแสติดตลาด ก็เพราะว่ามีข่าวออกมาวางทาง Paypal บริษัทรับจ่ายเงิน Online ชื่อดัง ได้ทำการระงับบัญชีการซื้อขายเครื่องพิมพ์ของ Josef Prusa เพราะว่าการเดินบัญชีนี้นผิดปกติ มีเงินเข้ามากจนผิดสังเกตุ ก็เพราะว่ายอดขายที่พุ่งกระโดดอย่างมาก ทำให้ทาง Paypal คิดว่าเป็นบัญขีที่อาจจะมีการเข้าข่ายฟอกเงิน โดยทาง Paypal ระงับบัญชีของทาง Prusa ที่่มียอดเงินในบัญชีกว่า 1,000,000 USD

ของแท้ VS ของเทียม

สำหรับเครื่องพิมพ์ 3 มิติ Prusa นั้น ถูกนำไปทำจนออกมามีหลากหลาย Version ซึ่งตัวที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด น่าจะเป็นเครื่องของ Wanho รุ่น Duplicator ที่สร้างขึ้นในประเทศจีน และขายออกไปทีั่วโลก ซึ่งเป็นที่นิยม เพราะราคาที่ไม่แพงมาก เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น (จึงๆแล้วจะเรียกว่าของเทียมก็ไม่ได้ เพราะทาง Prusa แจกแบบการทำเครื่องเอาไว้เป็นแบบ Opensource) นอกจากนั้นยังมีอีกหลายรุ่นหลายยี่ฮ้อที่ทำออกมาขาย ซึ่งถ้าใครค้นหาใน Internet จะเห็นว่ามีหลากหลายราคา ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ทำเครื่อง ส่วนใหญ่จะเป็นชุด KIT หรือชุดที่ต้องเอาไปประกอบเอง ซึ่งตรงนี้ผมเคยมีลูกค้าสั่งเข้ามา แล้วประกอบไม่ได้ ที่สั่งมาเพราะราคาถูก พอมาเอาประกอบ ก็ประกอบไม่ได้ เพราะว่าขาดอะไหล่บางตัว ซึ่งตรงนี้ผมเห็นหลายคนเจอ จนต้องทิ้งเครื่องไปเลย

เครื่อง Original Prusa i3 ของแท้ (ด้านซ้าย) VS เครื่อง Clone Prusa i3 (ด้านขวา)

สำหรับเครื่องที่เป็นของแท้นั้นเป็นเครื่องที่ทาง Josef เป็นคนทำขึ้นมาขายเอง ชิ้นส่วนที่พิมพ์ของตัวเครื่องจะเป็นสีส้ม (มี Version สีดำให้เลือกด้วย) เครื่อง Original Prusa i3 Mk2 มี Firmware ที่ทำขึ้นเอง รวมถึงเทคโนโลยีในเรื่องของการ Calibrate หัวฉีด ที่ทาง Josef คิดขึ้นมา และน่าจะจดลิขสิทธิ์ตัวนี้ ทำให้เครื่อง Prusa ตัวอื่นใช้ไม่ได้ ซึ่งเทคโนโลยีการ Calibration ของทาง Prusa นั้นมีความล้ำหน้าเอามากๆ เรียกว่า ถ้าประกอบเครื่องไม่ได้ระนาบหรือไม่ได้ฉาก ตัวเครื่องก็จะปรับแก้ไขค่าต่างๆ แบบอัตโนมัติ เพื่อเวลาพิมพ์งาน งานที่พิมพ์ออกมาจะมีความสมบูรณ์ที่สุด ในส่วนของหัวฉีดนั้นก็ใช้หัวฉีดของทาง E3D ที่ถือว่าเป็นหัวฉีดที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก เป็นหัวฉีดแบบ All metal ที่สามารถฉีดพลาสติกได้หลากหลายประเภทเช่น ABS, PLA, PetG, PC รวมถึงเส้น TPU

วิธีการ Calibrate เครื่อง Original Prusa i3 MK2 ที่ล้ำหน้าสุดๆ

ขอนอกเรื่องเกี่ยวกับเรื่องการนำเข้า 3D Printer 

ในปัจจุบันนี้ ประเทศไทยได้จัดให้เครื่องพิมพ์ 3 มิตินั้นเป็นสินค้าควบคุม ต้องมีการจดแจ้งและลงทะเบียนก่อนนำเข้า ซึ่งก่อนนำเข้านั้นก็ต้องไปจดทะเบียนกับกรมการค้าต่างประเทศก่อน ถึงจะนำเข้าได้ ลูกค้าผมหลายๆคน เล่าให้ฟังมาว่า สั่งไปแล้ว ติดอยู่ที่ศุลกากร เอาออกไม่ได้ ต้องไปจ้างบริษัทนำเข้า ซึ่งก็เสียเงินมากขึ้นกว่าเดิม รวมถึงเสียค่าเช่าโกดังที่ของต้องฝากเอาไว้ เพราะต้องไปดำเนินเรื่องนำเข้าเสียก่อน ซึ่งถ้าใครที่คิดว่าจะสั่งเอง ผมขอให้รองพิจารณาให้ดีก่อนนะครับ จริงๆแล้วบุคคลธรรมดาก็จดเองได้ แต่ก็ต้องเสียเวลาพอสมควรในการเตรียมเอกสารและดำเนินเรื่อง ผมแนะนำว่าถ้าจะสั่งเอง ต้องเป็นคนที่พร้อมจะรับกับความเสี่ยงในเรื่องของการใช้งานและการประกอบเครื่องด้วย เรียกว่าต้องมีความเป็นช่างพอสมควร  แต่ถ้าใครไม่อยากเสี่ยง ผมก็แนะนำให้สั่งกับผู้นำเข้าโดยตรง เวลามีปัญหาอะไร ก็สามารถโทรปรึกษาได้ ถึงแม้ราคาอาจจะแพง แต่ถือว่าเป็นค่าประกันความเสี่ยงในการใช้งานเครื่องดีกว่า สาเหตุที่ต้องมีการจดแจ้งนั้น เพราะทางกระทรวงเขากลัวว่า อาจจะมีคนคิดไม่ดี เอา 3D Printer มาทำอาวุธ และการทำของละเมิดลิขสิทธ์ ซึ่งตอนนี้ก็ถือว่าเป็นปัญหาในหลายๆประเทศ ใครอยากอ่านข่าวเรื่องนี้เพิ่มเติมก็กดเข้าไปอ่านที่นี่ได้เลย 

อยากรู้ว่าดียังไง ก็ต้องลองเสี่ยงซื้อมาดู

กลับมาเข้าเรื่องกันดีกว่า สาเหตุที่ผมเอาเจ้าเครื่อง 3D Printer Prusa i3 MK2 เข้ามานั้นก็เพราะว่าเห็นรีวิวจากวิดีโอในช่อง Youtube ที่ผมได้สมัครเอาไว้ หลายๆคน บอกว่าเป็นเครื่องที่คุ้มราคามากๆ เรียกว่าถ้าให้คะแนน เกือบทุกคนที่รีวิวจะให้ 10/10 ส่วนใครที่อยากรู้ว่าผมสมัครดูช่อง Youtube เพื่อตามรีวิวและอ่านข่าวเกี่ยวกับ 3D Printer ช่องไหนบ้าง ก็สามารถเข้าไปอ่านบทความเรื่อง 5 ช่อง Youtube สำหรับคนรัก 3D Printer

เครื่องของ Prusa นั้นตอนนี้แบ่งออกเป็น 2 แบบได้แก่ แบบชุด KIT กับแบบประกอบสำเร็จรูป ซึ่งราคาจะต่างกันอยู่ประมาณ 8000 บาท ตัวที่ผมสั่งนั้นเป็นชุด KIT ซึ่งจะประหยัดกว่า เพราะกล่องที่มาจะไม่ใหญ่เท่าเครื่องประกอบเสร็จ ทำให้ค่าขนส่งถูกลง ตอนที่ผมสั่งนั้นค่าเงินอยู่ประมาณ 34 บาท ตอนแรกที่สั่งผมกะว่าจะให่เขาส่งไปที่เยอรมัน เพราะช่วงนั้นผมกำลังจะเดินทางไปดูงาน Euromold อยู่ แต่เปลี่ยนใจให้ส่งที่เมืองไทยแทน เพราะถ้าส่งที่เยอรมัน จะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มอีกประมาณ 20% ได้ ผมคิดว่าไม่คุ้ม ถึงแม้ว่าค่าขนส่งจะถูกกว่าก็ตาม ลืมบอกไป เครื่อง Original Prusa i3 MK2 ตัวนี้ผลิตที่ประเทศ เช็ค รีพับบลิค ซึ่งอยู่ในโซนยุโรป หลังจากสั่งเครื่องไป รอประมาณ 2 อาทิตย์เครื่องก็เดินทางมาถึงเมืองไทย ก่อนเข้ามา ผมก็ต้องไปเตรียมเรื่องจดทะเบียนการนำเข้า กับกรมการค้าต่างประเทศ พอเครื่องมาก็ผ่านศุลกากรแบบง่ายๆ

เครื่องมาถึงผมก็ยังไม่ทำอะไร เพราะผมต้องรอให้ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของเครื่อง Prusa มาเป็นคนประกอบ ซึ่งคนที่เข้ามาช่วยผมนั้นก็คือ น้องเอ หรือ ชาติไทย ซึ่งถือว่าเป็นคนแรกๆในเมืองไทย ที่ประกอบเครื่องพิมพ์ 3 มิติประเภท Prusa ซึ่งน้องเขาก็ทำเครื่องขายด้วย ใครอยากรู้จัก ก็เข้าไป Like page น้องเขาได้ที่นี่ ส่วนใครที่มีแพลนจะทำเครื่องพิมพ์ 3 มิติเอง ก็แนะนำไปซื้อของกับน้องเขาเลย มีครบทุกอย่าง ทั้งอะไหล่และความรู้

น้องเอ ปรมมาจารย์เครื่อง Prusa

ผมรอประมาณ 2 อาทิตย์ จนน้องเขาว่าง มาประกอบเครื่องให้ ที่หน้าร้าน สยามเรปแรป น้องมาถึงช่วงประมาณเทียงๆ ก็เริ่มประกอบ สำหรับการประกอบนั้นจะเรียกว่าง่าย ก็ไม่ง่าย ยาก ก็ไม่ยาก ต้องมีการถอดเข้าถอดออกบ้าง นี่ขนาดคนที่ช่ำชองเครื่อง Prusa เพราะว่าเป็นการประกอบครั้งแรก คู่มือที่มากับเครื่องนั้น เรียกได้ว่าเป็น หนังสือเรียนเลย ก่อนประกอบ น้องเอก็เปิดอ่านแบบผ่านๆ เพราะอาจคิดว่ามันน่าจะเหมือนๆกัน แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่อย่างที่คิด เพราะเครื่องของ Prusa นั้นออกแบบชิ้นส่วนมาแบบที่ว่า สามารถเก็บสายไฟ เข้าไปในชิ้นส่วนที่พิมพ์ เพื่อความเป็นระเบียบ เรียบร้อย ซึ่งตรงนี้ผมว่า ทาง Josef นั้นได้ลองผิดลองถูกมามาก จนได้ชิ้นส่วนที่สมบูรณ์

อุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบเครื่อง Original Prusa

สำหรับชุด KIT ที่มานั้นจะแยกออกมาเป็นกล่อง ซึ่งแต่ละกล่องจะเป็นการประกอบในแต่ละส่วนได้แก่

  1.       โครงเครื่อง
  2.       ชุดขับแกน Y
  3.       ชุดขับแกน X
  4.       ชุดขับแกน Z
  5.       ชุดหัวฉีด
  6.       ระบบไฟและอิเลคทรอนิคส์

การประกอบนั้นก็ทำตามคู่มือ ซึ่งก็เขียนได้ละเอียดพอสมควร ส่วนที่ต้องระวังเขาก็จะเน้นเป็นรูปในคู่มือ สำหรับคนที่ซื้อเป็นชุด KITS ไป ผมให้เน้นในเรื่องของการอ่านคู่มือ ให้ละเอียด ตรงไหนที่เขาเน้น ก็ให้พับเอาไว้เลย จะได้ไม่ลืม ส่วนที่สำคัญที่สุดของการประกอบเครื่องตัวนี้คือ การตั้งฉากของเครื่อง ถ้าใครประกอบเครื่อง จงให้เวลากับส่วนนี้มากๆหน่อย ถ้าเครื่องประกอบออกมาเบี้ยว หรือไม่ได้ฉาก จะทำให้มีปัญหาในตอน Calibrate เครื่อง ถึงแม้ว่าทาง Prusa ได้บอกว่าถ้าเครื่องไม่ได้ฉาก ตัวเครื่องจะทำการ Offset ให้พิมพ์ให้ได้ฉากเอง แต่บอกก่อนนะครับ ถ้าฝืนให้เครื่องมันเดินแบบไม่ได้ฉาก จะทำให้ลูกปืนหรือชุดขับเคลื่อนจะหลวม และเสียเร็วมาก ถ้าไม่อยากให้เครื่องเสียเร็ว ก็แนะนำให้ใช้เวลาในการตั้งฉากเครื่องให้ได้

ขั้นตอนการประกอบ

น้องเอมาตอนเที่ยง นั่งดูคู่มือ และเริ่มประกอบตอนบ่ายๆ เชื่อไหมครับว่าประกอบเสร็จ ประมาณ 3 ทุ่ม นี่ขนาดน้องเขามีประสบการณ์ในการสร้างเครื่อง ยังใช้เวลาขนาดนี้ ผมถามน้องเขาว่าทำไม น้องเอบอกว่า ชิ้นส่วนที่พิมพ์มา มันมีช่องในการเก็บสายไฟ ทำให้เสียเวลาในการเก็บสาย มันไม่เหมือนกับเครื่องที่ทำจากเมืองจีน ที่พอประกอบเสร็จ สายไฟมันจะระโยงระยางไปทั่วเครื่อง เรียกว่า ไม่เรียบร้อย แต่เครื่อง Pursa มันไม่ใช่ พอประกอบเสร็จ เครื่องดูเรียบร้อย ไม่มีสายไฟ ระเกะระกะ ผมมองดูแล้วก็จริงตามที่น้องพูดครับ แม้แต่สายไฟด้านหลังที่ต่อกับ ฐานทำความร้อน ยังมีการใช้เส้นไนล่อนที่มีความแข็งผูกรวมเข้าไปกับสายไฟ เพื่อให้สายไฟนั้นโค้งตามเส้นไนล่อน เรียกว่า Josef ทำการคิดมาเป็นอย่างดี อีกอย่างเป็นเครื่องตัวแรกที่น้องประกอบ ก็เลยต้องใช้เวลากันหน่อย (มีแอบศึกษาเพื่อไปปรับปรุงเครื่องตัวเองด้วย)

เริ่มประกอบโครงที่เป็นส่วนหลัก ตรงนี้ต้องระวังเรื่องการตั้งฉาก
เริ่มประกอบฐานพิมพ์

อีกส่วนที่เสียเวลาคือการตั้งฉากเครื่อง อันนี้น้องเอ เขาเอาประสบการณ์ที่สร้างเครื่องมาใช้ เขาบอกว่าตรงนี้ยากสุดในการประกอบเครื่องประเภทนี้ ต้องมีการวัดหลายๆรอบให้มั่นใจว่า มันได้ฉากที่สุด เลยทำให้เสียเวลาจุดนี้มากหน่อย ประกอบเสร็จก็มาถึงช่วงสำคัญ นั่นก็คือการ Calibrate เครื่องโดยใช้ระบบ PINDA ที่ทาง Josef prusa คิดค้นขึ้นมาเอง ซึ่งระบบนี้คือการใช้สวิตข์แม่เหล็ก ตรวจจับคลื่นแม่เหล็กที่ฐานพิมพ์ เพื่อหาค่าระนาบแกน X และแกน Y รวมถึงระยะหัวฉีดกับฐาน ซึ่งตรงนี้เป็นจุดขายสำคัญของเครื่องตัวนี้ (ใครอยากรู้ว่ามันทำงานอย่างไร เลื่อนขึ้นไปดูวิดีโอด้านบน) เพราะต่อให้ประกอบเครื่องไม่ได้ฉาก ตัวเครื่องก็จะปรับตัวเอง เวลาพิมพ์ให้พิมพ์ได้ฉาก ส่วนระดับหัวฉีดนั้น ก็จะถูกตั้งค่าให้พอดี เรียกได้ว่า ถ้าพิมพ์เต็มพื้นที่ ในส่วนของพื้นก็จะเรียบ ไม่มีรอยเป็นคลื่นๆ เหมือนเครื่องรุ่นอื่นๆ

ชุดหัวฉีดของเครื่อง Original Prusa (ด้านหลัง)
ชุดหัวฉีดของเครื่อง Original Prusa (ด้านหน้า)

ทดลองพิมพ์งานกับเส้นและไฟล์ที่มากับเครื่อง

สำหรับงานที่พิมพ์นั้น ผมใช้เส้นที่ทาง Prusa แถมมากับเครื่องเป็นเส้นสีส้ม แถมมีแปะสติกเกอร์ว่า Made in Europe ส่วนไฟล์ที่พิมพ์ก็ลองเองไฟล์ใน SD Card ที่มากับเครื่องลองดู ชิ้นงานตัวแรกเป็นที่เปิดขวดหน้า Prusa งานชิ้นนี้พิมพ์ประมาณ 90 นาที พอพิมพ์เสร็จ ผมบอกเลยว่า มันสุดยอดมากๆ งานเหมือนฉีดออกมาเลย เส้นแถบจะละลายเป็นเนื้อเดียว พิมพ์อันนี้เสร็จ ก็ลองพิมพ์งานยาวๆ ดูบ้าง เป็นไฟล์ใน SD Card ที่แถมมาเหมือนเดิม แต่เป็นไฟล์รูปมังกร ยอดนิยม พิมพ์ประมาณ 9 ชั่วโมง ความละเอียด 0.2 มิล พอพิมพ์เสร็จ เห็นงาน ผมอ้าปากค้าง ตะโกนว่าสุดยอด ไม่รู้ว่าเครื่องมันดีหรือเส้นมันดีกันแน่ งานออกมาแถบจะเป็นเนื้อเดียวเหมือนกับงานชิ้นแรก เนียนมาก ไม่มีตะเข็บให้เห็น เส้นออกมาสม่ำเสมอมากๆ ยอดแหลมๆ ก็ไม่ล้ม พอเห็นงานตัวนี้ บอกตัวเองว่า ไม่เแปลกใจว่า ทำไมเครื่องตัวนี้ ถึงได้รับการยอมรับอย่างมากในปีนี้ จนหลายๆสำนักต่างเทคะแนนให้กับเครื่องตัวนี้

ทดลองพิมพ์งานกับเส้นที่มากับเครื่องและโปรแกรม Simplify3D

สำหรับการพิมพ์ครั้งนี้ ผมอยากลองว่าถ้าผมทำ G-Code เองแล้วพิมพ์ออกมายังจะสวยหรือเปล่า ซึ่งโมเดลที่ใช้นั้น ก็เป็นโมเดลรถบังคับ Open RC ผมใช้โปรแกรม Simplify3D ซึ่งเป็นโปรแกรมยอดนิยม เพราะความหยืดหยุ่นในการพิมพ์ (โปรแกรมตัวนี้เสียตังค์นะครับ) ผมลองพิมพ์งานหลายๆชิ้นในการพิมพ์ครั้งเดียว โดยเลือก Profile ของเครื่องที่มากับโปรแกรม Simplify3D (จริงๆแล้วทาง Prusa แนะนำให้โหลด Profile ของเครื่อง ทางเว็บ Prusa เพราะเขาปรับแต่งได้ดีกว่า Profile ที่มากับ Simplify3D) งานที่พิมพ์ใช้เวลาทั้งหมด 12 ชั่วโมง ที่ความละเอียด 0.2 มิล งานเสร็จออกมาไม่ต่างกับไฟล์ที่มากับ SD Card เรียกว่า เนื้องาน ดูเหมือนละลายแล้วเชื่อมเป็นเนื้อเดียวกัน คือมองไม่เห็นรอยต่อเลเยอร์เลย สรุปได้คือเส้นที่มากับเครื่องดี รวมถึงตัวเครื่องก็ดี อุณหภูมิที่ฉีดนั้นนิ่งมาก ฐานทำความร้อนก็นิ่งมาก แถมร้อนทั่วทั้งแผ่น ไม่ใช่ร้อนแค่ตรงกลางอย่างเดียว  

ผิวงานที่ได้ดีมาก ทั้งเรียบและเนียน

ทดลองพิมพ์งานกับเส้นจีนและโปรแกรม Simplify3D

เพื่อให้หายสงสัยว่าเครื่องดีหรือเส้นดีกันแน่ ก็เลยลองเอาเส้นจีนราคา 790 บาทพิมพ์งานดู โดยใช้โปรแกรม SImplify3D ในการทำ G-code งานที่พิมพ์ ออกมา ผมว่ามันดูไม่ดีเท่ากับเส้นที่มาจากทาง Prusa งานพิมพ์ออกมาเห็นเป็นรอยชั้นระหว่างเลเยอร์ แบบเห็นได้ชัด ซึ่งตรงนี้ทำให้ผมได้รู้ว่า อยากได้งานสวย ก็ต้องใช้เส้นในดี มีคุณภาพ ต่อให้เครื่องดีแค่ไหน แต่เส้นไม่ดี งานก็ไม่สวย ไอ้ที่ผมว่าไม่สวยนั้น ถ้าเทียบกับเครื่องจีนที่ทำลอกแบบ Prusa มาผมงานที่พิมพ์จาก Oringinal Prusa i3 Mk2 สวยกว่านะครับ

ผลงานพิมพ์จากเครื่อง Original Prusa โดยการทำโคีดผ่านโปรแกรม Simplify3D
งานชิ้นนี้ก็ทำผ่านโปรแกรม Simpliy3D เหมือนกัน ผิวออกมาเรียบสวยงามมาก

สรุปการใช้งาน 3D Printer Original Prusa i3 Mk2

มาถึงบทสรุปของเครื่องตัวนี้ ผมว่าเป็นเครื่องที่ทำให้ผมเปลี่ยนความคิด เกี่ยวกับเครื่องที่ประกอบและทำจาก Part ที่พิมพ์จากเครื่องพิมพ์ 3 มิติไปโดยสิ้นเชิง การสร้างเครื่องพิมพ์ 3 มิตินั้นบางครั้งอย่ามองแค่ชิ้นส่วนไม่ได้ แต่ให้มองไปถึง Software และ Firmware ที่ใช้กับเครื่องด้วย ผมว่าทาง Prusa นั้นปรับแต่งตัว Firmware ให้เข้ากับเครื่องที่เขาสร้างได้อย่างดีเยี่ยม ผมว่าเขาปรับแต่งแม้กระทั่ง  กระแสไฟที่จ่ายเข้าไปให้กับมอเตอร์ในแต่ละแกน ให้มันทำงานได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพมากที่สุด รวมถึง Profile ต่างๆ ที่มีการพิมพ์และทดลองจนได้ค่าพิมพ์ที่เรียกได้ว่า พิมพ์ได้สวยโดยที่ไม่ต้องปรับแต่งมาก ผมไม่สงสัยเลยว่าทำไมเครื่องตัวนี้ ถึงถูกยกย่องว่าเป็นเครื่องพิมพ์ 3D Printer ที่ดีที่สุดในปี 2017 และได้ขึ้นปกนิตยสาร Make

มาถึงคำถามสำคัญว่าเครื่องนี้เหมาะกับใคร? ผมขอแนะนำว่าเครื่องตัวนี้เหมาะกับมือใหม่และมือเก่ารวมถึงคนที่ต้องการรับพิมพ์งาน เพราะว่างานที่พิมพ์นั้นเรียกได้ว่ามีคุณภาพมากๆ ซื้อที่เดียวจบ ไม่ต้องไปมองหาเครื่องตัวอื่น พื้นที่พิมพ์ใหญ่ถึง 20 x 20 x 20 เซนติเมตร (ใหญ่กว่าหลายๆเครื่องในราคาที่ใกล้เคียงกัน) ตัวเครื่องซ่อมง่าย มีอะไหล่ให้พิมพ์ แถมพิมพ์สวย เรียกว่า พิมพ์เสร็จเอางานไปขายได้เลย (แต่ตรงนี้ต้องใช้เส้นมีคุณภาพหน่อยนะครับ) มี Support Forum ที่แข็งแกร่ง สามารถเข้าไปหาข้อมูลการซ่อม และการตั้งค่าเครื่องได้เอง รวมถึงมีชุด Upgrade ที่สามารถพิมพ์งานได้ 4 สี ที่สามารถนำมาใส่เพิ่มเติมได้เลย เรียกว่าคุ้มมากๆในราคาระดับนี้ (ชุด Upgrade นี้ออกประมาณเดือนเมษายน 2017 และต้องสั่งจองล่วงหน้า)

อุปกรณ์เสริมสำหรับพิมพ์งานหลายสี

สำหรับใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้วสนใจเครื่องตัวนี้ ตอนนี้มีรุ่นใหม่ออกมาแล้ว คือ Original Prusa i3 MK3 ที่มีฟีเจอร์ที่ดีกว่ารุ่นเก่า อย่าง MK2 เช่น ไฟดับหรือไฟตก เครื่องจะกลับไปพิมพ์ต่อที่เดิม หรือถ้าเส้นพลาสติกหมดระหว่างพิมพ์ เครื่องก็จะหยุดให้เราเปลี่ยนเส้น แล้วค่อยกลับมาพิมพ์ต่อ สนใจลองเข้าไปอ่านรีวิวต่อได้ที่ รีวิว Original Prusa i3 MK3 เครื่องพิมพ์ 3 มิติ ที่ล้ำหน้าเครื่อง 3D Printer ยี่ฮ้ออื่นๆ

ใครสนใจเครื่องพิมพ์ 3 มิติ สามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 089-8160651 หรือทาง Facebook Fan Page สยามเรปแรป 

Similar Posts