Ripple maker เครื่องทำ Latte Art จากเทคโนโลยี 3D Printer
การเพิ่มมูลค่าสินค้า หรือ Value Added เป็นอีกวิธีที่จะทำให้ขายสินค้าได้ง่ายขึ้น โดยการเพิ่มบางสิ่งที่แตกต่างเข้าไปในสินค้าธรรมดา ก็จะทำให้สินค้านั้นมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งวิธีการนี้ส่วนใหญ่ จะไปเน้นในเรื่องการออกแบบหรือการใส่ไอเดียเข้าไป ซึ่งประเทศญี่ปุ่นเก่งมากในเรื่องนี้ เช่นแตงโมที่ทำให้เป็นรูปสีเหลี่ยม สำหรับกาแฟนั้น ถือว่าเป็นธุรกิจที่ใหญ่มากในประเทศเรา ถีงขนาดที่บริษัทใหญ่อย่าง ปตท ยังลงมาทำ ซึ่งร้านกาแฟส่วนใหญ่นั้น จะเน้นเรื่องของราคาในการแข่งขัน ซึ่งในวันนี้ได้มีบริษัทที่ชื่อว่า Ripples ได้ใช้เทคโนโลยีที่ใช้ หลักการของ เครื่องปริ้น 3D printer มาสร้างมูลค่าให้กับกาแฟ นั้่นคือการทำ Latte Art (ทางเราไม่ได้นำเข้ามาจำหน่าย เพียงแต่ลงเป็นบทความเอาไว้)
หลายๆคน คงเคยได้กินกาแฟลาเต้ ที่มีฟองนมอยู่ด้านบน ซึ่งถ้าเป็นร้านกาแฟแบบพรีเมี่ยม Barista หรือคนชงกาแฟ ก็จะทำลวดลายลงหรือรูปลงบนฟองครีม ซึ่งการทำลวดลายบนฟองครีม Latte ก็ต้องใช้ Barista ที่มีประสบการณ์ หรือต้องไปเรียนรู้วิธีการทำมา ซึ่งลวดลายที่ทำก็จะไม่ซับซ้อนมากนัก แต่ในวันนี้ได้มีคนคิดเครื่องสำหรับทำ Latte Art บนฟองครีมได้ โดยใช้หลักการ 3D Printer มาประยุกต์ใช้ ซึ่งตัวเครื่องชื่อว่า Ripple Maker วัสดุที่ใช้พิมพ์ก็คือ ผงกาแฟ และใช้หัวพิมพ์คล้ายๆกับ หัวพิมพ์ Inkjet ยิงผงกาแฟลงบนฟอง ทำให้เกิดรูปตามต้องการ ? ซึ่งทางบริษัทผู้ผลิตเครื่องได้กล่าวว่า ผงกาแฟ ที่ใช้พิมพ์นั้นเป็นแบบบดละเอียดมากๆ ซึ่งจะไม่ไปทำลายกลิ่นและรสชาติของกาแฟ
นอกจากนั้นทาง Ripple Maker ก็ได้ทำ App สำหรับมือถือ ซึ่งใช้สำหรับเลือกภาพที่จะใช้พิมพ์ลงบนกาแฟ ซึ่งผู้ใช้ App สามารถที่จะเลือกรูปที่ถ่ายเก็บไว้มาทำภาพบนกาแฟถ้วยโปรดของตัวเองได้ นอกจากเลือกรูปได้ ยังสามารถที่จะปรับแต่งรูป เช่น ย่อ ขยาย หรือการใส่ตัวหนังสือก็ทำได้ ซึ่งตอนนี้ App นั้นมีเฉพาะแค่ใน iOS แต่ทางบริษัทกำลังพัฒนาให้สามารถใช้กับ Android ได้ด้วย ซึ่งตัว App ยังสามารถระบุได้ว่า ร้านกาแฟ ร้านไหนที่มีเจ้าเครื่อง Ripple Maker อยู่
ส่วนการวางตลาดของเจ้าตัว Ripple Maker นั้น ทางบริษัทจะไม่ได้ขายเครื่องให้กับร้านกาแฟ แต่จะเป็นการให้เช่าเครื่อง ซึ่งค่าเช่าเครื่องจะอยู่ที่ 85 USD ต่อเดือน ส่วน App ที่ลูกค้าใข้นั้นจะให้ทำการ Download ได้ฟรี
การเข้ามาของเจ้าเครื่อง Ripple Maker จะสามารถสร้างประสบการณ์ใหม่ๆให้กับผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งต้องขอขอบคุณเทคโนโลยี เครื่องปริ้น 3D Printer ที่ทำให้เกิดเจ้า Ripple Maker
ที่มา 3Ders
